Design Thinking อ.เหรียญชัย

หลักสูตร 1 วัน

Design Thinking เพื่อการพัฒนาองค์กร ในงานต่างๆ

โดย อาจารย์เหรียญชัย นำชัยศรีค้า

วิทยากรอิสระ ด้านการวางแผนกลยุทธ์องค์กรและวางแผนทางการเงิน การปรับโครงสร้างหนี้

การบริหารจัดการ  การเจรจาต่อรอง และการบริหารจัดการทางจิตวิทยา

หลักการและเหตุผล

ในปัจจุบันเป็นยุคของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและนวัตกรรมซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (Disruptive Innovation) การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทำให้ทุกคนสามารถกลายเป็นผู้ผลิต และขายสินค้าได้ง่ายขึ้น หากองค์กรขนาดใหญ่ไม่ตระหนักถึงภัยคุกคามจากคู่แข่งที่มีความสามารถพัฒนาไปได้เร็วกว่า ไม่มีความตระหนักถึงและเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการ/กระบวนการการทำงาน/กระบวนการกการผลิต/นวัตกรรมในองค์กร อาจจะทำให้มีคู่แข่งรายเล็กๆจำนวนมากที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับปรุง พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นชิงส่วนแบ่งการตลาดเล็กๆจากผู้เล่นเดิมหรือผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด แล้วมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าหรือบริการของตนให้ดียิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว จนถึงจุดที่สามารถหันมาแย่งลูกค้ากับรายใหญ่ได้

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การพัฒนาบริการ การพัฒนากระบวนการการดำเนินงาน การพัฒนานวัตกรรมจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และสร้างตลาดๆใหม่ ตลอดจนการครองใจลูกค้าได้ ดังนั้นการบ่มเพาะบุคคลากรให้มีความรู้ ทักษะ ความสามารถ ในการพัฒนาด้วยเครื่องมือ/วิธีการที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้า จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะสามารถช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาการทำงานและพัฒนานวัตกรรม(Product/Service Innovation ) ในองค์กรได้อย่างมีหลักการและแนวทางที่ชัดเจน

Design Thinking เป็นกระบวนการคิดเชิงออกแบบที่ผสมผสานการคิดสร้างสรรค์ (Creative thinking) และการคิดเชิงธุรกิจ (Business thinking)เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างเป็นระบบ โดยมีหลักสำคัญ คือการเข้าใจความต้องการและปัญหาของกลุ่มเป้าหมาย (Human-Centered)  การระดมความคิดเพื่อค้นหาทางแก้ไข และการเรียนรู้และลงมือทำเพื่อสร้างคุณค่าและนวัตกรรม   ซึ่ง Design Thinking สามารถนำความคิดสร้างสร้างสรรค์  แนวทางการแก้ปัญหา  มาต่อยอดออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมให้จับต้องได้  รวมทั้งการเข้าใจผู้คน การทำงานเป็นทีม ตลอดจนสร้างคุณค่า และสามารถสร้างผลประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้

Design Thinking สามารถนำไปใช้ในการพัฒนานวัตกรรมได้ ตั้งแต่นวัตกรรมกระบวนการ (Process Innovation), การพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรม (Product Innovation) และ นวัตกรรมการบริการ (Service Innovation)  ที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมาย ลูกค้า ผู้ใช้ แล้วต้องการพัฒนากระบวนการ ผลิตภัณฑ์หรือบริการแก้ปัญหา และสร้างคุณค่าที่ตอบโจทย์กลุ่มดังกล่าว 

วัตถุประสงค์

1.          เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงซึ่งส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนขององค์กร

2.          เพื่อให้เกิดความเข้าใจในกระบวนการของการทำ Design Thinking

3.          เพื่อนำ Design Thinking ไปปรับสู่กระบวนการคิดให้เกิดกระบวนการใหม่ สามารถนำไปสู่การลดต้นทุนได้

4.          เพื่อนำ Design Thinking ไปสู่กระบวนการ Innovation ในด้านต่างๆ

หั  หัวข้อการอบรม

1.          ปรับกระบวนการสร้างกรอบความคิดใหม่ (Mind Set)

Work Shop & Coaching เพื่อปรับกรอบความคิด ในการทำงาน เพื่อการทำงานให้เกิดมีประสิทธิภาพ

2.          ผลลัพธ์ของการปรับกระบวนการใหม่ สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ กับการไม่ปรับ จะเกิดผลกระทบอะไรบ้าง

Work Shop & Coaching เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเกิดการตระหนักรู้ ถึงผลลัพธ์ของการปรับตามกระบวนการใหม่และไม่ปรับ จะเกิดอะไรขึ้น

3.          ความหมาย ของ Design Thinking  และประยุกต์ได้ในงานอะไรบ้างของ องค์กร

Work Shop & Coaching เพื่อให้เกิดความเข้าใจและการนำ Design Thinking ไปใช้งานด้านต่างๆ ขององค์กร โดยให้ผู้เข้าอบรมได้ตระหนักบนตัวของพนักงานเอง

4.          กระบวนการ ของ Design Thinking

Work Shop &Coachingเพื่อให้เข้าใจกระบวนการการใช้Design Thinking

5.          Empathize

Work Shop &Coachingเพื่อทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง เข้าใจในปัญหา ความต้องการ ความจำเป็น อารมณ์ ความรู้สึก การกระทำที่ออกมา  ความหมายในสายตาของกลุ่มเป้าหมาย  วิธีการทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายนี้

6.          Define

Work Shop & Coaching เพื่อให้สามารถระบุปัญหาที่ต้องการแก้ไขให้ชัดเจน และเป็นปัญหาที่แท้จริง

7.          Ideate

Work Shop & Coaching เพื่อการเรียนรู้การใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อให้เหลือความคิดดี จำนวนหนึ่ง และสามารถนำมาทำเป็นต้นแบบได้จริง ภายใต้ทรัพยากรและกำลังของบริษัทในขณะนั้น

8.          Prototype

Work Shop & Coaching เพื่อให้สามารถนำเอาไอเดียที่คัดเลือกไว้แล้วมาสร้างต้นแบบนวัตกรรมที่ใช้แก้ปัญหา  สร้างกระบวนการใหม่ๆ หรือ แนวความคิดใหม่

9.          Test

Work Shop & Coaching เพื่อนำต้นแบบ ไปทำการทดสอบ เพื่อพิจารณาประเมินผลว่าสามารถตอบโจทย์ หรือ แก้ไขปัญหาได้หรือไม่

 

แนวทางในการอบรม 

บรรยาย 40% Work Shop & Coaching 60% โดย

ใช้แนวทางของ Appreciative Inquiry and Positive Psychology เป็นฐานในการดำเนินการอบรม

ผู้ที่เหมาะสมกับหลักสูตรนี้

 

ระดับ ผู้บริหารขั้นต้น ขึ้นไป /   จำนวน 25  คน

 

อุปกรณ์ที่ใช้ : อื่นๆ

               - LCD       - Flip Chart    - Microphone    - Classroom and Workshop

ระยะเวลาในการจัดฝึกอบรม        

              1 วัน  รวมเวลา 6 ชั่วโมง (ช่วงเวลา  9.00 น.-16.00 น.)

 

 

 

สถาบันพีพีเลิร์นนิ่ง : สร้างคนเชิงรุก สนุกพัฒนา องค์กรสำเร็จ ชีวิตมั่งคั่ง

Visitors: 78,467